ลูกเดือยเพื่อสุขภาพ

ลูกเดือยเป็นของหวานที่ทานแล้วมีประโยชน์เช่นกันค่ะ

มะละกอช่วยลกจุดด่างดำ

มะละกอช่วยลดจุดด่างดำได้จริงหรอ??? ผู้หญิงควรอ่าน

การดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ

กาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) มีสารต้านอนุมูลอิสระ และคาเฟอีนมากกว่าพันธ์อราบิก้า (Arabicas) ถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากวิธีการคั่วกาแฟ และปริมาณกาแฟที่ละลายแต่ละถ้วย รวมทั้งยังขึ้นอยู่กับวิธีการชงกาแฟ ระยะเวลาและปริมาณกาแฟที่ใช้ด้วย

ข้อดีของแคนตาลูป

แคนตาลูปจัดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หลาย ๆ คนอาจไม่เคยทราบเลยว่า เนื้อแคนตาลูปนั้นมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา มีวิตามินซี ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน และมีแคลเซียม ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน

ทานเมล่อนช่วยอะไรสำหรับร่างกายเรา

มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งนั้น แถมยังไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อาหารสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นต่อคนในเมือง

         
            อาหารเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนเมือง หรือคนที่ไม่ค่อยมีเวลา ในการพักผ่อน
หรือในการออกกำลัง การที่ได้รับประทานอาหารดีๆ เข้าสู่ร่างกายของ  เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพของเราดีขึ้น เนื่องจากอาหารเพื่อสุขภาพส่วนใหญ่ จะมาจากธรรมชาติ จึงมีสารตกค้างน้อย และส่วนใหญ่จะมีกากใยอาหาร เป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วยเหลือส่วนของระบบขับถ่ายในร่างกายเราได้เป็นอย่างดี หากร่างกายของคนเรามีการขับถ่ายที่ดี และมีการพักผ่อนที่ดี การมีสุขภาพที่ดี ก็เป็นเรื่องไม่ยากอีกต่อไป

การดูแลสุขภาพกับพฤติกรรมมนุษย์ในปัจจุบัน


      เรื่องของการดูแลสุขภาพในปัจจุบันเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับคนเรา
ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการกินอาหารที่มีประโยขน์ หรือรวมไปถึงการหาเวลา
ออกกำลังกายกันให้มากขึ้น ในชีวิตประจำวันของคนเมืองการดูแลสุขภาพเรื่องลดน้อยลง   เนื่องจากมีความจำเป็นในการแข่งขันกับเวลาในเรื่องของการทำงาน ความเป็นอยู่ต่างๆ 
ปัญหาการจราจรที่ติดขัด พฤติกรรมของคนเมืองจึงมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก 
และสิ่งเหล่านี้นิเองทำให้คนเมืองมักมีปัญหา เรื่องสุขภาพมากมายตามกันมา 
ดังนั้นเราก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพเราให้มากขึ้น

ลดการรับประทานเนื้อสัตว์ ทำให้ผิวพรรณดูสดใส



          การลดรับประทานเนื้อสัตว์ และงดอาหารที่มาจากทอดๆที่มีน้ำมันเยอะๆ หรือปิ้งย่าง และหันมารับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ในเรื่องของผิวพรรณของท่านก็จะดูสดใส เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลอีกด้วย ช่วยในการลด และชลอความเหี่ยวย่นของใบหน้าเราได้เป็นอย่างดี เพราะอาหารที่มาจากธรรมชาติเหล่านี้ มักไม่มีสารพิษที่ตกค้าง หรือสารเร่งโต เวลาเรารับประทานสารเหล่านี้มากๆเข้าสู่ร่างกาย ก็ทำให้ทั้งร่างกายและผิวพรรณของเรามีปัญหาต่างๆตามมาอีกด้วย 
และยังเป็นสารที่สะสมทำให้ก่อเกิดจากโรคมะเร็ง อีกด้วย เพราะ เนื้อสัตว์ เดี๋ยวนี้จะมีแบบทั้ง สุกๆดิบๆ หรือ ดิบ ไปเลย เราสามารถ จะดูแลผิวพรรณของเราด้วยการทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น 

วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รักษาอาการไอ ด้วยสมุนไพรบ้านๆ


ใครๆก็รู้ว่าเดี๋ยวนี้อากาศประเทศไทย ของเรา แปรปวนมากแค่ไหน ยิ่งฝนตก อากาศหนาวละก็ เป็นปกติของ อาการเป็นไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ต้องมาเยือนผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ แน่นอน ค่ะ และที่สำคัญ การกินยาตามแพทย์สั่ง ก็อาจจะทำให้ ไปสะสมยุในร่างกาย ของเรา วันนี้ เราจึงจะนำเสนอ สมุนไพร ที่ช่วยลดอาการไอ
การไอนั้น ไม่เข้าใครออกใครหรอกค่ะ บางคนไอ จนเสมหะมีเลือดปนออกมาก็มี บางคนไอแห้งก็มีค่ะ ซึ่งทรมาน กว่าการเป็นไข้ตัวร้อนอีกค่ะ
มารู้จักสมุนไพร ลดอาการไอ กันดีกว่านะค่ะ

พริกไทยดำ + น้ำผึ้ง

          สูตรนี้เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของอังกฤษกับจีนเข้าด้วยกัน เนื่องจากพริกไทยดำมีความเผ็ดร้อน ช่วยขับลมไล่สิ่งขจัดขัดขวางทางเดินหายใจได้ดีเยี่ยม จึงทำให้จมูกโล่งและหายใจได้คล่องขึ้น ส่วนน้ำผึ้งก็เป็นยาปฏิชีวนะชนิดอ่อน ช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย สูตรนี้จึงเหมาะมากกับคนที่มีอาการไอแบบมีเสมหะและมีน้ำมูก 

          วิธีชง เพียงแค่ผสมพริกไทยดำสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะในน้ำร้อนจัด 1 แก้ว จากนั้นก็เติมน้ำผึ้งแท้ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ปิดฝาแก้วทิ้งไว้ 15 นาที กรองเอากากออกแล้วก็ดื่มทันที อาการไอแบบมีเสมหะก็จะหายไป แต่สูตรนี้ไม่เหมาะกับอาการไอแห้ง

น้ำมะนาวคั้นสด ๆ กับเกลือ
สำหรับคนที่ไอมานานจนเจ็บคอไปหมด ให้ฝานมะนาวออกครึ่งลูก แกะเม็ดออกให้เกลี้ยง โรยเกลือลงบนผลมะนาวเล็กน้อย จากนั้นก็บีบมะนาวเข้าปากไปเลย มันสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอและอาการไอได้อยู่หมัดจริง ๆ เราก็จะรู้สึกได้เลยว่าน้ำมะนาวและเกลือที่ไหลผ่านคอลงไป จะชโลมผดผื่นของการอักเสบได้อย่างทั่วถึงเลยค่ะ

ลองทำกันดูค่ะ เผื่อเราจะพบทางออกที่ดีไม่ต้องไปพึ่งยาหมอให้มากค่ะ อิอิ

10 เคล็ดลับที่ทำให้เราดูเด็กลง


สวัสดีค่ะ เดี๋ยวนี้เรามองๆดู ไม่ว่าจะดารา หรือ ผู้หญิง ผู้ชาย บางคน หน้าตา ผิวพรรณ ดูมีอายุ ซะอีก แล้วไปเปิดดูประวัติ ที่ไหนได้ โอ้แม่เจ้า เด็กกว่าเราอีก ก็ว่าได้ 555+ แต่เดี๋ยวนี้ ก็มีทั้งโบท็อก ทั้งยาเสริม ที่ช่วยให้เราดูอ่อนเยาว์ เยอะแยะมากมาย แต่เรารู้หรือไม่ว่า สารพวกนั้นที่เข้าไปในร่างกายเราแล้ว อาจจะเกิดการสะสม ในร่างกาย ก็เป็นได้ใช่มั้ยค่ะ วันนี้เรามาดูวิธีธรรมชาติๆ ที่ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องพึ่งเข็ม กันดีกว่าค่ะ

10 วิธี ที่ทำให้เราดูเด็กลง
1.อย่าอด อาหารเช้าเป็นมื้อที่ควรทานทุกวันจะช่วยให้ดูเด็กกว่าอายุจริง 2 ปี 
2.มีเซ็กส์ เซ็กส์ที่มีคุณภาพหมายถึงไปถึงจุดสุดยอดได้มากเท่าไร ใน 1 ปี จะทำให้เราดูเด็กกว่าอายุจริงได้ถึง 1.6-8 ปี (ไม่ได้เข้าข่ายลามกเพียงอย่างใดแต่ก็มีผลวิจัยออกมาแล้วเช่นกันนะค่ะ)
3.อย่าอยู่ใกล้ควันบุหรี่ คนที่อยู่ใกล้ ๆ ควันบุหรี่วันละไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง จะดูแก่กว่าอายุจริงราว ๆ 6.9 ปี ซึ่งพอ ๆ กับคนที่สูบบุหรี่เป็น ประจำเลยทีเดียว
4.หัวเราะเข้าไว้ เพราะการหัวเราะทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดี ไม่เครียด และจะทำให้เรา ดูอ่อนกว่าวัยไป 1.7-8ปี
5.เลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ เพราะอาหารไขมันต่ำจะทำให้คุณดูเด็กลงไม่ต่ำกว่า 6 ปี
6.เรียนรู้สิ่งรอบ ๆ ตัวตลอดเวลา เพราะการเรียนรู้และหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำสม่ำเสมอจะทำให้คุณดูเด็กลง 2.5 ปี
7.อย่าลืมเรื่องเศรษฐกิจ คนที่มีปัญหาเครียดเรื่องเงินจะทำให้ดูแก่กว่าอายุจริง 8 ปี
8.หาทางออกที่เหมาะสมเมื่อพบวิกฤติของชีวิตการเอาชนะปัญหาชีวิตได้ จะทำคุณดูเด็กลง 8-16 ปี
9.รักษาน้ำหนักให้มาตรฐานคงที่ คนที่ลดน้ำหนักลงได้จะทำดูเด็กกว่าอายุจริงไม่ต่ำกว่า 6 ปี
10.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังที่เหมาะสมจะทำให้ดูเด็กลง 3-8 ปี

แค่10วิธีนี้ก็ได้ผล มากๆเลยนะค่ะ ยังไงเพื่อนๆลองทำกันดูนะค่ะ 

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

10อย่างที่หมอห้ามกิน ที่จริงแล้วมีประโยชน์ล้นหลาม

สวัสดีค่ะ ห้างหายกันไปนานเหลือเกินนะค่ะ วันนี้จะมาพูดถึง อาหารต้องห้ามจากคุณหมอ ค่ะ
คุณเคยไปหาหมอแล้วถูกห้าม โน่น ห้ามนี่ กันไหมค่ะ?
ห้ามกินของหวาน หเามกินโปรตีนเยอะ เวลาไม่สบายให้จิบน้ำอุ่นๆ ก็พอ ให้กินอาหารครบ5หมู่ห้าม ดื่มของมึนเมา ห้ามๆๆๆๆๆๆ....5555+ จนบางทีเราคิดว่าสิ่งที่ห้ามมานั้น ของชอบและไม่เห็นเป็นอะไรเลย ใช่มั้ยค่ะ
วันนี้เราจะมาบอก 10อย่างที่เราโดนหมอสั่งต้องห้าม!!!!ค่ะ
1.ไข่แดง ไข่แดงมีประโยชน์มากนะค่ะ เพราะไข่แดงมีทั้ง "วิตามินD" และสารต้าน อนุมูลอิสระ แบบ "ไบโอติน" และอีกทั้งยังมี "โอเมก้า3" ช่วยลดไขมันในไข่แดง กินวันละฟองก็สบายเลยค่ะ
2.หมึก หมึกอุดมไปด้วย "โอเมก้า3" ไม่ได้มีแค่ไขมันอย่างเดียวค่ะ
3.หอยนางรมและหอยอื่นๆ  หอยก็ไม่ได้แย่ และไม่ได้เป็นพิษภัยต่อเราเพราะ กอยนางรม มี"สังกะสี" ในปริมาณที่สูงมาก ส่วนหอยแมลงภู่ จะมี"แคลอรีต่ำ" เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ขอแนะนำวิธีการทานหอยให้อร่อยไม่มีกลิ่นคาว คือ ลวก ด้วยน้ำต้มตะไคร้ ค่ะ
4.กะทิ การรับประทานกะทิให้ปลอดภัย คือ ไม่ปรุงหวานจัดหรือเค็มจัดจนเกินไป 
5.ไอศครีม ของกวานเย็นชื่นใจอย่างนี้มีประโยชน์มากค่ะ ในกรณีโรคมือเท้าปาก  ไอศครีมสามารถช่วยชีวิต ผู้ที่เป็นโรคนี้ ได้เลยทีเดียวค่ะ  เพราะการได้ของหวานๆ เย็นๆ จะทำให้มีพลังงาน อถมยังชื่นใจอีกด้วยค่ะ
6.น้ำเย็น น้ำเย็นทำให้ดับอาการร้อนข้างในร่างกาย อุณภูมิของน้ำที่เย็นทำให้ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น
7.ลูกอม คนเป็นโรคเบาหวานต้องพกติดกระเป๋าเอาไว้ไม่เสียหายค่ะเพราะเวลาคนเป็นโรคเบาหวานที่กำลังจะหมดแรง การได้อมลูกอมหวานๆ  จะช่วยหยุดอาการใกล้วูบได้อย่างชะงัดเลยทีเดียวค่ะ
8.ผักผลไม้ดอง เป็นแหล่งรวมของ "โพรไบโอติกส์" คือ จุลินทรีย?เชื้อดีที่ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงสุดไส้ ควรเลือกผลไม้ดองธรรมชาติ ที่ไม่ใส่สี ไม่หวานจัดเกิน นะค่ะ
9.กาแฟ กาแฟช่วยให้ผู้ใหญ่ไม่วูบ หรือ มึนศรีษะง่าย ท่านที่อยากให้สมองแล่นลองดื่มกาแฟสัก2ช้อน ดูค่ะ
10.น้ำหวานและน้ำอัดลม ถ้าเรามีอาการท้องเสียขึ้นมา"น้ำแดง" ที่เราคุ้นเคยนั่นละครับช่วยได้มากที่สุด มากกว่าน้ำเกลือแร่ผง เสียอีกค่ะ หรือผู้ใหญ่ที่ใกล้จะเป็นลม กินข้าวไม่ได้ อย่างน้อยได้น้ำหวานสัก แก้ว 2แก้ว ต่อวันอาการเหล่านี้ก้จะหาย ทันทีที่รุสึก จะเป็นลมได้เลยทีเดียวค่ะ

10อย่างที่กล่าวมานี้ หมอ ห้ามมากที่สุดใช่มั้ยค่ะ555+ ต่อไปเราควร ฟังหูไว้หูนะค่ะ 

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

มะขามช่วยรักษาโรคได้จริงหรอ?


สวัสดีค่ะ ห่างหายไปหลายวันเลยทีเดียว วันนี้ก็นึกอยากจะมาพูดถึงสมุนไพรบ้านเราย้างเนาะ อิอิ ที่จริงก็แอบได้ยินรายการตอนเช้ามา เลยบอกว่าก้เป็นคำแนะนำที่ดี ว่ามะขามก็รักษาโรคได้

    มะขามมีส่วนที่รักษาอาการของคนเราได้หลายส่วนเลยทีเดียว เรามาเริ่มกันที่
เนื้อมะขาม ใช้แก้ร้อน ขับเสมหะ  และแก้อาการเบื่ออาหารในฤดูร้อน อาการคลื่นไส้ อาเจียน
ใบแก่ นำมาปรุงเป็นยาแก้ไอได้ โรคบิด ขับเสมหะในลำไส้ปอกโลหิต ขับเลือดในลำไส้ แก้หวัดคัดจมูก
เมล็ดแก่ ใช้ถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็ก และแก้ท้องร่วง
เปลือกต้น แก้ท้องอืด ท้องแน่น อาหารไม่ย่อย แก้เจ็บปาก เจ็บคอ สมานแผลเรื้อรัง 

เห็นมั้ยะค่ะ ว่าแก้ได้เยอะเลยทีเดียว ค่ะ


วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรามาดูอาหารที่เป็นพิษกันค่ะ


สวัสดีค่ะ หลังจากที่แนะนำบทความที่ดีต่อสุขภาพกันไปแล้ว วันนี้ก็จะมาแนะนำเกี่ยวของเสียที่เราไม่รู้ว่ามันมีพิษ กันดีกว่าค่ะ วันนี้ก้จะนำเสนอ เกี่ยวกับอาหารมีพิษ 
1.มันสำปะหลัง มันมีพิษอยู่ในผลของมันค่ะเพราะในลูกของมันสำปะหลังมีสารไซยาไนค์ค่อนข้างสูง ซึ่งมันเป็นสารที่อันตรายมาก ถ้าเรานำไปปรุงอาหารไม่ถูกวิธีและกินดิบๆอาจเกิดอาการแน่นหน้าอก น้ำลายฟูมปาก ชักและเสียชีวิตในที่สุด ได้ค่ะ ขนาดสัตว์ใหญ่อย่างวัวควายก็ตายมาหมดแล้วค่ะ
2.เห็ด เห็ดที่มีประโยชน์ก้มีอยู่เยอะค่ะปละเห็ดที่มีพิษก็มีอยู่ปนมั่ยน้อยเลยทีเดียวค่ะ  เห็ดหลายชนิดมีพิษร้ายหาก กินเข้าไปอาจมีอาการไม่สบายท้อง ปละเห็ดสามารถทำลายตับ ไต และหัวใจ ได้ด้วยเช่นกันค่ะ เห็นมีพิษนี้จะอยู่ในกลุ่ม Amanita และ Helvella ค่ะ
3.ปลาปักเป้า ปลาปักเป้า แน่นอนอยู่แล้วใช่มั้ยค่ะ ว่ามันเป็นแลาที่มีพิษ ร้ายแรงเช่นกัน พิษของปลาปักเป้านั้น ชื่อว่า (Tetrodotoxin) มันจะยุในหนัง ไข่ เนื้อ ของปลาปักเป้าค่ะ ปลาปักเป้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นปลาต้องห้าม ของหลายประเทศเลยทีเดียวค่ะ ใครที่รับประทานไปแล้วจะมีอาการ ลิ้นชา อาเขียน เพราะมันจะไปทำลายระบบกล้ามเนื้อ ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ำด้เลยทีเดียวค่ะ
4.มะม่วงหิมพานต์ เป็นพืชที่ให้ทั้งประโยชน์และเป็นพืชที่ให้ทั้ง โทษค่ะ
ประโยชน์ของมะม่วงหิมพานต์นี้จะช่วย ให้เรามีอารมณ์ดี จะหลั่งสารฮอร์โมนที่ว่าทำให้เราอารมณ์ดีออกมา สงสัยว่าฮอร์โมนอะไรลองกลับไปอ่านบทความเก่าๆดูค่ะ 
โทษของมะม่วงหิมพานต์นี้ คือ urushiol นี่คือชื่อพิษจากมะม่วงหิมพานต์ค่ะ มันจะทำให้เราระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างรุนแรง และยังทำลายเนื้อที่ก้อนไต ดช่น ตาปลา หูด อีกด้วยค่ะ
5.พริก พริกนี้มีสารอยู่ในตัวคือสาร แคปไซซิน เพราะมันทำให้เกิดรสเผ็ดร้อน ขค้นมาใช่มั้ยค่ะ ถ้าเรากินในปริมาณมาก ก้อาจถึงตายได้เช่นกันค่ะ เพราะอาจจะเกิดกระเพาะทะลุได้เช่นเดียวกันค่ะ

เห็นมั้ยละค่ะว่าอาหารปต่ละชนิดก้มีทั้งข้อดีปละข้อเสียตสมกันไปค่ะ^_^"
รับประทานน้อยๆแต่บ่อยๆ ค่ะ^_^"